โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า ให้เรียวสวย ผิวยกกระชับ
โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าคืออะไร
สำหรับใครที่อยากมีใบหน้าเรียวเล็ก ผิวยกกระชับ พลาดไม่ได้เลยกับการฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า หรือ การฉีด Botox เพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ปรับโครงหน้าให้ชัดและเป๊ะ
โดยเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า จะให้ความสำคัญกับกล้ามเนื้อ Platysma หรือ กล้ามเนื้อขนาดใหญ่บริเวณคอ ที่ปกคลุมตั้งแต่ไหปลาร้า ขากรรไกร และเชื่อมไปยังกล้ามเนื้อมุมปาก ซึ่งกล้ามเนื้อ Platysma สัมพันธ์กับการแสดงอารมณ์บนใบหน้าของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแสดงสีหน้าเศร้า ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็งตัว ส่งผลให้เกิดการดึงรั้งผิวบริเวณใบหน้าลง และตามมาด้วยปัญหาผิวหย่อนคล้อย และกรอบหน้าไม่ชัดนั่นเอง
เทคนิคการฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า
- Dermolift จะฉีด Botox เข้าไปในชั้นผิวหนังแท้บริเวณแนวกรอบหน้าขึ้นไปด้านบน เพื่อให้เกิดการหดตัวของผิวในทันที ส่งผลให้ผิวยกกระชับขึ้น เต่งตึงขึ้น และหลังจากฉีดประมาณ 2 สัปดาห์ จะเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง และคงผลลัพธ์ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
- Nefertiti lift คือการฉีดโบท็อกซ์ที่กล้ามเนื้อ Platysma บริเวณใบหน้า และลำคอ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวลง ทำให้ใบหน้าเกิดความหย่อนคล้อย ดังนั้น เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไป กล้ามเนื้อ Platysma จะทำงานได้น้อยลงชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนที่ดึงรั้งผิวขึ้นมีแรงมากกว่า ผิวจึงยกกระชับ และดูเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าช่วยอะไรบ้าง
ปัจจุบันการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย กระชับสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน โดยการฉีดโบท็อกซ์ลิฟหน้าก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยให้ผิวบริเวณรอบๆ หย่อนคล้อยน้อยลง กรอบหน้ายกกระชับมากขึ้น ทำให้เห็นรูปหน้าคมขึ้น หน้าดูเรียวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าใช้กี่ยูนิต
การฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า จะใช้ปริมาณโบท็อกซ์ประมาณ 30-50 ยูนิต ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคนเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อความแม่นยำ แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและประเมินปริมาณยาที่ใช้ จะแม่นยำที่สุด และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังทำ
โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าอยู่ได้กี่เดือน
ระยะเวลาของการเห็นผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และเทคนิคที่ใช้ในการฉีด โดยการฉีดโบท็อกซ์ลิฟหน้าด้วยเทคนิค Dermolift ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน ส่วนการฉีดลิฟกรอบหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift จะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน เช่นกัน
ข้อดีของการลิฟท์หน้าด้วยโบท็อกซ์
-
- ช่วยให้ผิวบริเวณกรอบหน้ากระชับ หน้าดูเรียวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
- หากฉีดโบท็อกซ์ลิฟหน้าร่วมกับโบท็อกลดกราม จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- สามารถฉีดซ้ำได้ ไม่เป็นอันตราย และรักษาผลไว้ได้นาน ทั้งนี้ขึ้นกับยี่ห้อโบท็อกซ์ และการดูแลตัวเองของคนไข้ด้วย
อันตรายจากการลิฟท์หน้าด้วยโบท็อกซ์ปลอม
-
- ฉีดโบท็อกซ์ลิฟหน้าแล้วไม่เห็นผล หน้าไม่ตึง หรือหมดฤทธิ์ไปอย่างรวดเร็ว
- หนังตาตก ปากเบี้ยว เพราะตัวยากระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น
- เกิดอาการแพ้ เพราะตัวยาไม่บริสุทธิ์
- หมดฤทธิ์ไว ทำให้ต้องฉีดบ่อยขึ้น และเสี่ยงต่อการดื้อยาในอนาคต
- การดื้อโบท็อกซ์ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นภาวะที่ไม่มีทางรักษาหายได้
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าเจ็บไหม
ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ลิฟหน้าทุกครั้งจะมีการทายาชา หรือประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดให้น้อยลงจนถึงไม่รู้สึกเจ็บเลย ทำให้คนที่กลัวเจ็บ หรือกลัวเข็มก็สามารถเข้ารับบริการได้ อีกทั้งเข็มที่ใช้ฉีดโบท็อกซ์ยังเป็นเข็มขนาดเล็กอีกด้วย โดยที่ Ve’anna Clinic ไม่เหมือนที่ไหนๆ เพราะหมอป๊อบใช้เทคนิคเฉพาะตัวในการฉีด จึงสามารถใช้ตัวยาในปริมาณที่เหมาะสม แต่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ยี่ห้อโบท็อกซ์ที่คุณหมอป๊อปแนะนำ
สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ลิฟหน้า เพื่อกระชับผิว ปรับกรอบหน้าให้สวยเป๊ะ หมอป๊อบแนะนำ Hugel Botulax และ Dysport ซึ่งเป็นโบท็อกซ์จากสองสัญชาติ คือเกาหลีและอังกฤษ
-
- Hugel Botulax โบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี หนึ่งในยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคลินิกชั้นนำมากมาย เพราะแสดงผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วหลังทำ ให้ผลลัพธ์ยาวนาน และยังเหมาะมากๆกับการลดกล้ามเนื้อมัดใหญ่อีกด้วย
- Dysport โบท็อกซ์อังกฤษ เห็นผลรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้ในการ lifting หรือการทำ dermolift ทำให้หน้ากระชับแบบเร่งด่วน นอกเหนือจากนี้ โบท็อกซ์ยี่ห้อนี้ ยังกระจายตัวได้ดี และยังมีโอกาสในการดื้อยาน้อยอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนการทำโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า
-
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ โดยการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์
- เลือกฉีดโบท็อกแท้เท่านั้น และก่อนฉีดควรให้แพทย์ผสมโบท็อกต่อหน้าทุกครั้ง
- ตรวจเช็กร่างกายตนเองก่อนว่ามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ได้ทานยาเป็นประจำ และไม่มีโรคประจำตัว ถ้ามีต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
- ควรจะหยุดทานอาหารเสริมประเภทวิตามินอี น้ำมันปลา โสม หรือสมุนไพรที่ทำให้ร่างกายร้อน ประมาณ 2-3 วันก่อนฉีด
- ห้ามกินยาแก้อักเสบหรือแอสไพรินก่อนการฉีดยา 1 อาทิตย์
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรฉีดเด็ดขาด
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า
-
- ห้ามนวดหน้า หรือกด ในบริเวณที่ทำการฉีดโบท็อก
- งดนอนราบ 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด
- งดการทำซาวหน้า โยคะร้อน การทำเลเซอร์ 2 สัปดาห์
- งด หรือละเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ (แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ควรเว้นอย่างน้อย เป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังฉีด)
- งดทานวิตามินอี น้ำมันปลา ยาต้านการอักเสบชนิด NSAIDs และยาแอสไพริน ซึ่งมีผลลดการแข็งตัวของเลือด หรือสมุนไพรที่ทำให้ร่างกายร้อน
ราคาโบท็อกซ์ลิฟท์หน้าที่ Ve’anna Clinic
การฉีดโบท็อกซ์ลิฟหน้า ราคา 4,900 บาท/ครั้ง โดยสามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ Ve’anna Clinic ก่อนทำได้ฟรี!
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าที่ไหนดี? Ve’anna Clinic มีคำตอบ
หากคุณฉีดโบท็อกซ์ลิฟหน้าเป็นครั้งแรก แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก การทำงานของโบท็อก รวมถึงจุดเด่นของโบท็อกแต่ละยี่ห้อมาก่อน จากนั้นควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน มีรีวิวจริงจากเคสจริงเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ และที่สำคัญ ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
ที่ Ve’anna Clinic คุณหมอออกแบบการฉีดแบบเคสต่อเคสเพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้ได้อย่างแท้จริง และยังใช้เทคนิคการฉีดที่ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวย เป็นธรรมชาติ หน้ายกกระชับ แต่ไม่ตึง ไม่แข็ง ที่สำคัญคุณหมอมือเบามาก ไม่เจ็บ และไม่มีผลข้างเคียงหลังฉีด นอกจากนี้ยังมีการติดตามผลหลังทำ และแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์อย่างละเอียดเพื่อให้คงผลลัพธ์ไว้ได้นานที่สุด
สำหรับคนที่สนใจสามารถนัดเข้ามาปรึกษาปัญหาได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และสามารถขอดูภาพรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางออนไลน์ Facebook, Instagram และ LINE OA หรือโทร. 064-696-9693
รีวิว โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าที่ Ve’anna Clinic
บทความเพิ่มเติม
-
เสริมคาง สวยไม่โป๊ะ! ยืนหนึ่งเรื่องคางสวย | Ve’anna Clinic
เสริมคาง ทำคาง ควรเลือกอย่างไรให้สวยเป๊ะแบบไม่โป๊ะ
12 สิงหาคม 21
-
รวมเรื่องต้องรู้ก่อนเสริมคางผู้ชาย
กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง อย่างเป็นธรรมชาติ พัฒนาและเพิ่มความมั่นใจในตัวคุณ
14 มกราคม 22
-
โบท็อกซ์ลดกราม ปรับโครงหน้าเรียวสวยให้เข้ารูป
กระชับกรอบหน้า ปรับหน้าเรียวสวยให้เข้ารูปด้วยโบท็อกซ์กราม
19 มกราคม 22
Ve’anna Clinic
115/7 ซอยรัชดา 32 (เข้าซอยรัชดา 36 แยก 19-1) ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
วิธีเดินทางมาที่ Ve’anna Clinic
1. เดินทางโดยรถไฟฟ้า (BTS)2. เดินทางโดยไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
3. เดินทางด้วยรถส่วนตัว (มีที่จอดรถ)