รวมเรื่องต้องรู้ก่อนเสริมคางผู้ชาย
การเสริมคางคืออะไร?
ปัจจุบันการเสริมคางผู้ชายด้วยซิลิโคนกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และถาวรกว่าการเติมคางด้วยฟิลเลอร์ หรือไขมันที่จะค่อยๆ สลายไปเองภายในระยะประมาณ 2-3 ปี โดยการเสริมคางผู้ชายธรรมชาติจะช่วยปรับรูปหน้าให้สมส่วน ดูดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยปรับโหงวเฮ้งได้อย่างดีอีกด้วย
วัสดุที่ใช้ในการเสริมคางผู้ชาย
-
-
Silicone ซิลิโคนเป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ใช้กันมานาน และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในปัจจุบัน มีทั้งแบบสำเร็จรูป และแบบที่สามารถตกแต่งเองให้พอดีกับคนไข้แต่ละคน ซึ่งจะมีผลข้างเคียงน้อยมาก
-
e-PTFE เป็นวัสดุที่ใช้สำหรับผ่าตัด หลอดเลือด หรือ ปิดแผล ไส้เลื่อน เมื่อใส่ไปแล้ว เนื้อเยื่อจะงอกแทรกไปตามรูพรุนของวัสดุ ทำให้เหมือนเนื้อเยื่อธรรมชาติ
-
PMMA Customized Implant เป็นวัสดุประเภทเดียวกับ Bone Cement ใช้เทคนิคการทำเหมือน 3D จะได้ขนาด และรูปร่างที่พอดีกับความต้องการของคนไข้แต่ละคน เช่น ในกรณีที่คนไข้มีคางซ้ายหรือขวาไม่เท่ากัน การเสริมคางก็สามารถช่วยทำให้ผลลัพธ์ออกมาเท่ากันทั้งสองข้าง และดูเป็นธรรมชาติได้
-
Fat Transfer การใช้เซลล์ไขมันเสริมคาง เป็นวิธีที่ง่ายโดยจะดูดไขมันจากบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย ประมาณ 20 CC. เพื่อฉีดเข้าไปเสริมบริเวณคาง แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่นาน และเสียรูปทรงได้ง่าย เพราะไขมันมีการสลายตัวได้เองขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย
-
การเสริมคางผู้ชาย แตกต่างจากการเสริมคางผู้หญิงอย่างไร
ผู้ชายทำคาง ค่อนข้างแตกต่างกับผู้หญิง เนื่องจากโครงสร้างใบหน้าที่แตกต่างกัน รวมถึงความนิยมของรูปคางที่อยากทำก็ไม่เหมือนกัน โดยลักษณะคางที่ผู้ชายนิยมเสริม จะมีปลายคางโค้งมนมากกว่าทรงของผู้หญิง และเน้นความเป็นธรรมชาติ เพราะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้า แต่ไม่ทำให้หน้าหวานจนเกินไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย
ปัญหาคางผู้ชายที่พบบ่อย
ปัญหาของคางส่วนใหญ่ที่ผู้ชายอยากแก้ไข มักจะคล้ายกับของผู้หญิง ได้แก่…
คางบุ๋ม : บริเวณปลายคางจะมีลักษณะบุ๋ม บางคนบุ๋มเยอะจนเห็นได้ชัดเจน บางคนบุ๋มเล็กน้อย แตกต่างกันออกไป
คางสั้น : รูปหน้าส่วนคางจะสั้นกว่าส่วนอื่น ทำให้หน้าดูกลม และทำให้โครงหน้าไม่ได้สัดส่วน
คางตัด : บริเวณปลายคางจะมีลักษณะคล้ายการตัดตรง ไม่มีปลายคาง ทำให้หน้าดูแข็ง ดุ ไม่ละมุน
คางถอย : คางจะสั้น และถอยร่นไปด้านหลัง ทำให้เหมือนคนไม่มีคาง ดูเนื้อน้อย
โดยปัญหาคางเหล่านี้ มักจะทำให้รูปหน้าไม่ได้สัดส่วนที่สวยงาม จนอาจเสียความมั่นใจได้ การเสริมคางผู้ชายจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ใบหน้าดูเรียวยาว และสมส่วนมากยิ่งขึ้น
คางผู้ชายที่เพอร์เฟ็ค ควรเป็นอย่างไร?
การเสริมคางผู้ชายให้ได้รูปทรงคางที่เพอร์เฟ็ค ควรเลือกทรงที่เข้ากับรูปหน้าเดิมได้ดี และไม่เสี่ยงทำให้เกิดข้อผิดพลาดขณะผ่าตัด หรือ หลังผ่าตัด อีกทั้งควรมีลักษณะปลายมน คล้ายตัวยู ไม่แหลมจนเกินไป และเพื่อให้รูปคางออกมาถูกใจมากที่สุด คนไข้ควรปรึกษา และร่วมกันออกแบบรูปคางกับหมอผู้เชี่ยวชาญ
นอกเหนือจากนี้ ยังมีทฤษฎีใบหน้าที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งจะแบ่งสัดส่วนออกเป็น 3 ส่วนตามแนวนอน ได้แก่…
-
- สัดส่วน 1/3 เริ่มจากไรผมจนถึงหว่างคิ้ว
- สัดส่วน 1/3 เริ่มจากหว่างคิ้วจนถึงปลายจมูก (ความยาวจมูก)
- สัดส่วน 1/3 เริ่มจากปลายจมูกจนถึงปลายคาง
ผ่าตัดเสริมคางดีกว่าฉีดฟิลเลอร์ที่คางอย่างไร
การผ่าตัดเสริมคางจะรักษารูปทรงของคางแบบถาวร แตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้รูปทรงคางเปลี่ยนแปลงไม่คงที่ อาจจะเกิดการไหลไปยังบริเวณอื่น และมีอายุการใช้งานสั้นเพียง 1-2 ปีเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ การผ่าตัดเสริมคาง เมื่อคนไข้ต้องการแก้ไข ก็สามารถทำได้ง่ายและมีผลกระทบน้อยมาก โดยสามารถผ่าตัดเอาวัสดุเสริมคางออกได้เลยทั้งแท่ง ไม่ทำให้คางไม่เสียรูปทรงจากเดิม แต่ในกรณีของการฉีดฟิลเลอร์คาง เมื่อต้องการเอาออกจะมีความยุ่งยากมากกว่า และไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมด ซึ่งในกรณีที่เป็นฟิลเลอร์แท้จะใช้วิธีการฉีดสลายออก แต่หากเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือซิลิโคนเหลวจำเป็นจะต้องผ่าตัดขูดออก
เทคนิคการเสริมคางผู้ชาย
-
-
การทำคางผู้ชายแบบแผลนอก
-
เทคนิคนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็กบริเวณปลายคาง ทำให้ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ดูแลง่าย และแผลหายไว เหมาะทั้งเคสเสริมใหม่ และเคสแก้
ข้อดี
-
-
- ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ จากเศษอาหารและน้ำลายในช่องปาก
-
ข้อเสีย
-
-
- อาจเกิดรอยแผลเป็น และเป็นคีลอยด์
- เห็นรอยแผลผ่าตัดได้ง่าย
- ซิลิโคน เคลื่อนลง ผิดตำแหน่งได้ง่าย
-
-
-
การทำคางผู้ชายแบบแผลใน
-
เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากมีรอยแผลเป็น แต่ต้องดูแลโดยหมอที่มีความชำนาญ รวมถึงการดูแลแผลหลังผ่าตัดจะค่อนข้างยากกว่าการผ่าตัดเสริมคางแบบแผลนอก
ข้อดี
-
-
- ไม่เห็นแผลเป็นภายนอก
- บวมช้ำน้อย แผลหายเร็ว เนื่องจากผิวหนังภายในปากเป็นผิวหนังที่สมานตัวเร็วกว่าผิวหนังภายนอกร่างกาย
- นิยมในแพทย์-ทันตแพทย์ ที่ต้องประเมินกระดูกขากรรไกรและการสบฟันร่วมด้วย
- ทำความสะอาดแผลได้ง่ายเพียงบ้วนน้ำเกลือ
-
ข้อเสีย
-
-
- เป็นเทคนิคที่ยาก จึงต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
-
-
-
- หากเกิดการกระแทกรุนแรง อาจส่งผลให้ซิลิโคนบริเวณคางเคลื่อนผิดตำแหน่งได้
-
การเตรียมตัวก่อนเสริมคางผู้ชาย
-
- งดวิตามิน อาหารเสริม และยาตระกูลแอสไพริน ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ ก่อนรับการผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หากมีเครา ให้โกนเคราออกก่อนรับการผ่าตัด
- เตรียมรูปทรงคางตัวอย่างที่อยากได้ มาปรึกษาคุณหมอก่อนเข้าห้องผ่าตัด
- ทานอาหารให้พออิ่มก่อนเข้าห้องผ่าตัด ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร
- ไม่ควรเสริมเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้า ควรสวมเสื้อผ้าที่เป็นกระดุมหน้าเพื่อความสะดวกต่อการสวมใส่หลังผ่าตัด
ขั้นตอนการเสริมคางผู้ชาย
-
-
การทำคางผู้ชายแบบแผลนอก
-
ทำความสะอาดใบหน้า และบริเวณที่จะผ่าตัด
-
ฉีดยาชา และรอยาชาออกฤทธิ์ ประมาณ 10-15 นาที
-
เปิดแผลเล็กๆ ใต้คางประมาณ 1-1.5 ซม.
-
ใส่ซิลิโคนตามตำแหน่งที่ต้องการ
-
เย็บปิดแผล โดยจะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 30-45 นาที
-
-
-
-
การทำคางผู้ชายแบบแผลใน
- ทำความสะอาดใบหน้า และบริเวณที่จะผ่าตัด
-
-
-
- ฉีดยาชา และรอยาชาออกฤทธิ์ ประมาณ 10-15 นาที
-
-
-
- เปิดแผลข้างในปาก ตรงซอกเหงือกบริเวณริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลจะมีขนาดประมาณ 0.75 ซม.
- แยกเนื้อเยื่อหุ้มกระดูกตรงบริเวณขอบล่างขึ้นมา แล้วทำการใส่ซิลิโคนเข้าไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
- เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย โดยใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชม.
-
วิธีดูแลหลังการเสริมคางผู้ชาย
-
- 1-3 วันแรกหลังจากการผ่าตัดทำคางชาย สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำ
- โดยหลังวันที่ 4 เปลี่ยนมา ประคบอุ่น
- นอนยกศีรษะสูงกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อลดอาการบวมเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง เพราะอาจจะทำให้เสียรูปทรงได้
- งดอาหารแสลง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
- งดออกกำลังกายเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
- รับประทานยา ตามที่แพทย์สั่งให้ครบ
- เน้นทานอาหารอ่อน ที่ไม่ต้องใช้แรงบดเคี้ยว งดอาหารรสเผ็ด หรือเค็มในช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัด
- หากรู้สึกปวดมากกว่าปกติ หรือ มีข้อสงสัยต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
เลือกคลินิกเสริมคางผู้ชายที่ไหนดี? ทำทีเดียวปัง!
ผู้ชายเสริมคาง ให้สวยอย่างปลอดภัย ทำครั้งเดียวจบไม่ต้องแก้ แนะนำให้ใส่ใจตั้งแต่การเลือกคลินิก โดยคลินิกที่ดีควรสะอาด ปลอดภัย มีเคสรีวิวจริงให้เห็น สามารถตรวจสอบได้ง่าย มีการดูแลคนไข้ตั้งแต่ก่อนไปจนถึงหลังการผ่าตัด พร้อมให้คำปรึกษา และตอบปัญหาข้องใจของคนไข้ได้ ที่สำคัญควรเลือกคลินิกที่ดำเนินการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ผ่านการฝึกด้านศัลยกรรมมาโดยตรง
ที่ Ve’anna Clinic คุณหมอป๊อปจะเป็นผู้ดูแลและออกแบบทรงคางให้รับกับใบหน้าของแต่ละคน โดยคุณหมอจะให้คำปรึกษาก่อนผ่าตัด พร้อมทั้งเหลาซิลิโคนแบบเคสต่อเคส และยังมีเทคนิคพิเศษ Ve’lock ศัลยกรรมขั้นสูงจากประเทศเกาหลี ที่ช่วยลดการเบี้ยวเอียงของคาง และเทคนิคการฉีดยาชาสุดพิเศษ ที่ช่วยให้รู้สึกเจ็บได้น้อยกว่าที่อื่น บวมน้อย ช้ำน้อย ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
สนใจสอบถามข้อมูล หรือขอดูภาพรีวิวเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Ve’anna Clinic ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Facebook, Instagram และ LINE OA หรือโทร. 064-696-9693
บทความเพิ่มเติม
-
ไขข้อสงสัย เสริมคางแผลนอก-แผลใน แบบไหนดี?
พร้อมเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการเสริมคางทั้ง 2 แบบ รวมถึงการดูแลหลังเสริมคาง
18 กรกฎาคม 21
-
ฟิลเลอร์คาง ปรับรูปหน้า เติมเต็มคางให้สวยเป๊ะ
คางสั้น หน้าไม่ละมุน แก้ได้ด้วยฟิลเลอร์คาง
20 มกราคม 22
-
เสริมคาง สวยไม่โป๊ะ! ยืนหนึ่งเรื่องคางสวย | Ve’anna Clinic
เสริมคาง ทำคาง ควรเลือกอย่างไรให้สวยเป๊ะแบบไม่โป๊ะ
12 สิงหาคม 21
Ve’anna Clinic
115/7 ซอยรัชดา 32 (เข้าซอยรัชดา 36 แยก 19-1) ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
วิธีเดินทางมาที่ Ve’anna Clinic
1. เดินทางโดยรถไฟฟ้า (BTS)2. เดินทางโดยไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
3. เดินทางด้วยรถส่วนตัว (มีที่จอดรถ)